ทำไมละ ทำไมถึงเก็บเงินได้น้อยกัน ??
ทำไมหนะหรออ.. หนุ่มๆก็จะหมดไปกับ Gadget มือถือ แท๊บเล็ต โน๊ตบุ็ค เกม ไหนจะกล้อง ไหนจะจักรยานฟิกเกีย เสือภูเขา...(ใครชอบอาบน้ำนี่อาจถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว :D) สาวๆก็หมดไปกับความงาม ไหนจะกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ครีมบำรุงต่างๆมากมายย...
เพื่อนๆ ชวนไปเที่ยวหัวหิน ไปอลงร้านอาหารเก๋ๆอย่าง อาฟเตอร์ยู ช๊อควิว เพลินวาน เนื้อย่าง บุฟปลาดิบ ซูชิเทพ... บางคนพ่อแม่หวังดีดาวน์รถให้เพราะอยากได้เงินแสนนึง เจอค่าน้ำมัน ค่าประกันไป ก็แทบจะปิดประตูที่จะเก็บเงินไปได้เลย :(
พอเริ่มมีตังเยอะหน่อย ก็ป่ะ..เที่ยวต่างประเทศกิ๊บเก๋สุดๆ เกาหลีก็ดูดี ญี่ปุ่นก็ใช้ได้ สิงคโปร์ต่อกันไหม หรือว่าจะไปสยามสแควร์ นั่งตากแอร์ให้ชุ่มปอด.. (ขำกริบครับมุขนี้ ฟันธง :P)
และโดยเฉพาะเด็ก ตจว. อย่างผม.. เดืิอนๆนึงต้องแบ่งเงินเดือนที่มีอยู่น้อยนิดไปจ่ายค่าหอ 4000-6000 แถมค่าไฟอันแสงแพงหน่วยละ 8 บาทขอย้ำอีกครั้งหนึ่งหน่วยละ 8 บาท... 0_o" ถ้าใครเปิดแอร์เล่นคอมจัดไปเลย 1000-2000
แล้วจริงๆรู้วิธีเก็บเงินกันไหม ??
รู้แน่นอน ก็ใช้ให้ได้น้อยกว่าที่หา ทำบัญขีรายจ่าย ได้เงินมาแบ่งเก็บเลย 10-20% งั๊ยยย ไม่เห็นยาก...
แล้วทำได้ไหม ??
บอกได้เลยครับ ว่าส่วนใหญ่รู้.. แต่ส่วนใหญ่อีกนั่นแหละครับที่ทำไม่ได้... มันก็ยากพอๆกับลดความอ้วนละ ง่ายๆลดอาหารหวาน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แล้วทำได้ไหม ? น้อยคนมากครับที่ทำได้.. (เกี่ยวป่าวหว่า??)
แล้วมันจะมีหนทางไหม ??
มีครับมี.. อย่างเพิ่งหมดหวังไป :)
ง่ายๆครับ ต้องหาอะไรซักอย่างมาเป็นรายจ่ายบังคับ สำหรับคนวินัยแย่อย่างผม มีเงินเป็นไม่ได้ต้องใช้ วันๆอ่านรีวิวหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของเล่นใหม่ๆที่จะเสียเงินซื้อประจำ มันต้องถึงขั้นไม่จ่ายโดนยึด (ต้องถึงขั้นนี่จริงๆครับไม่งั้นไม่เหลือ)
แล้วคอนโดเนี่ยนะ ซื้อคอนโดช่วยได้ไง ?? เก็บเงินไม่อยู่จะให้ซื้อคอนโดบ้าไปแล้ว..
เดี๋ยวก่อนครับ สำหรับบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า สมัยนี้นั้นการจะเป็นเจ้าของคอนโด เริ่มต้นด้วยเงินประมาณสามถึงห้าหมื่นเท่านั้น.. เพราะว่าคอนโดสมัยก่อนเค้าจะสร้างเสร็จแล้วเราเลือกห้องจ่ายดาวน์ก้อนใหญ๋ไปเลย 10% เหมือนรถยนต์ แต่สมัยนี้เค้าจะให้จองตั้งแต่มีแต่ที่ดินเปล่ากับเซลออฟฟิตและมีการ "ผ่อนดาวน์" คือจองค่าจองก้อนนึงก่อน หลังจากนั้นผ่อนดาวน์ที่เหลือ 18,24,36 งวดแล้วแต่คอนโดแต่ละที่เลย
ตย. คอนโด 1.5 ล้าน ดาวน์ 10% ก็เท่ากับ 150,000 หักเงินจองซัก 50,000 ก็จะเหลือที่ต้องจ่าย 100,000 บาท บอลลูนสองงวดงวดละ 15,000 (ส่วนใหญ่เค้าจะรู้ใจ จะเป็นงวดของเเดือนโบนัสพอดี) ก็จะเหลืออีก 70,000 ที่เป็งวดยอ่ยๆ หารจำนวณงวด... ก็จะตกเหลืองวดละ 3,500 3,900 4900 แล้วแต่เจ้าของโครงการจะปรับเลขให้ดูสวยงาม ตามโฆษณาคอนโดที่บอกว่า "ผ่อนเริ่มต้นเพียง" จริงๆมันคือการผ่อนดาวน์ ไม่ใช่ผ่อนกับแบงค์ที่เราจะกู้นะครับ
ระวัง ! งวดบอลลูนที่จะจ่ายเป็นหลักหมื่น 1-2 งวด ต้องเผื่อเงินดีๆ แต่ด้วยความที่ถ้าไม่จ่ายจะโดนยึดเงินดาวน์ มันก็เลยต้องทำให้ผมกระเสือกกระสนหามาได้ (อย่าถึงขั้นต้องไปกู้ หรือว่ายืมใครเลยนะครับ)
แล้วเงินจะแต่งคอนโดละลวกเพ่ ? หมดไปกับเงินดาว เงินบอลลูนแล้ว ^^;
ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าเราหากู้ 100% ได้ เราะจะได้เงินดาวน์ 10% หรือ 150,000 ที่เราจ่ายไปแล้วคืนมา แต่จะต้องโดนหักค่าโอน ค่าส่วนกลางล่วงหน้า ค่าจดจำนอง ค่าประกันมิเตอร์ไฟ และอื่นๆ จะเหลือให้แต่งห้องประมาณ 7-8 หมื่นบาท ก็แต่แบบพออยู่ได้ประมาณนึงเลยนะครับ ขยันเลือกหาของแต่งห้องแบบประหยัดๆหนอ่ยละกันนะ อิอิ
แต่ผมเชื่อว่าคนที่ผ่อนดาวน์คอนโดอยู่และเมื่อคอนโดใกล้ๆเสร็จ มักจะไปเดินตามร้านเฟอร์ในห้าง ตามหนังสือตามเว็บ มโนแต่งห้องไปกันเยอะแล้วละครับ อิอิ :D
แล้วสรุปมันช่วยออมและรวยได้ไงละเพ่ อ้อมโลกจะถึงดาวอังคารอยู่แล้ว >...< ?
เรื่องออม.. มันจะช่วยให้เรามีรายจ่ายบังคับไงละครับ ไม่งั้นหมดแน่ๆ เงินที่ต้องจ่ายค่าเช่าหอพัก ก็มาจ่ายค่าผ่อนคอนโดดีกว่า ตย. คอนโดผมกู้มา 1.6 ล้าน ผ่อนเดือนละ 8,090 บาท เป็นดอกซะ 5-6 พันบาท พอๆกับค่าเช่าหอพักดีๆละครับพี่น้องง ไหนประหยัดไฟได้อีกเยอะเพราะจ่ายตามมิเตอร์ไฟฟ้าเลย จบกันที่กับค่าไฟหน่วยละแปดบาททท
แต่เชื่อไหมครับถ้าเพื่อนๆใช้เงินเก่งแบบผม สุดท้ายไม่ว่าจะดาวน์คอนโดรึเปล่า ก็จะหมดไปกับอย่างอื่นอยู่ดี :D
เรื่องรวย.. มันก็ไม่ได้ถึงกับรวยมากหรอกครับ แต่มันจะได้จับเงินก้อน (ที่ทั้งชีวิตไม่เคย) ก็ตอนขายนี่แหละครับ เพราะว่าคอนโดนั้นทุกปีราคามีแต่จะขึ้นกับขึ้น เหล็กปูน ค่าแรง ที่ดินมันขึ้นๆเอาๆหนะสิครับ
เพราะงั้นคอนโดที่เปิดใหม่ราคารจะสูงกว่าคอนโดที่ขายมาก่อนหน้าแล้วหนะสิครับ เช่น สมมุติเราซ์้อมาซัก 1.5 ล้าน แต่อีกสามปีห้าปีมีคอนโดมาเปิดข้างๆ ไงๆมันก็จะต้องราคาเกิน 1.5 ล้านแน่ๆ เช่นอาจจะขึ้นไปอยู่ที่ 1.9 ล้าน ย้ำว่าสมมุตินะครับ ก็จะทำให้คนที่จะซื้อคอนโดนั้นอาจหันมามองคอนโดเรา เพราะว่าพร้อมอยู่เลย แต่คนงกอย่างเราถ้าจะขาย ก็แน่นอนเราก็ขายบวกกำไรไปอยู่แล้วหละ ^---^
เราก็จะได้ส่วนต่างหักนู่นนี่นั่น ก็พอตั้งตัวได้อยู่นะครับ ยิ่งเด็กหอ ถือว่าจ่ายไม่ได้เยอะกว่าเดิมมากเลย แต่อาจได้ลุ้นส่วนต่างจากตอนขายคอนโดก็เป็นได้ แต่ถ้าขายไม่ได้ราคาก็ถือว่าเสมอตัว ได้กำไรเรื่องการอยู่คอนโดที่มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัยดีๆแล้วกันนะคับ หลังจากนั้นก็อาจแต่งงานย้ายไปอยู่กับแฟน ซื้อบ้าน หรือว่าจะกลับบ้านนอกตามแต่ทางของแต่ละคนเลยครับ
แล้วจะรู้ได้ไงละว่าคอนโดทีเราเล็งไว้ดีจริงๆรีเปล่า ??
เรื่องมันย๊าวยาวจะพูดในนี้คงหลายหน้า ผมเองเขียนวิธีดูแบบง่ายๆแบบบ้านๆแล้วครับ 7 เทคนิคง่ายๆในการเลือกคอนโดยังไงให้โดนใจ ตรงนี้ก็สำคัญนะครับ ถ้าเลือกคอนโดไม่ดีนอกจากราคาไม่ขึ้นแล้วยังต้องอยู่ไปช้ำไป วิธีที่ผมเขียนอาจประยุกต์ได้กับการซื้อบ้านด้วยนะครับ
แล้วเงินเดือนเท่านี้จะกู้ได้เท่าไหร่เนี่ย ??
เงินเดือน 12,000-15,000 ต่อเงินกู้ 1 ล้านครับ **ในกรณีที่ปลอดหนี้นะครับ และค่างวดขึ้นกับนโยบายธนาคารและดอกเบี้ยนะตอนขอยื่นกู้นะครับ เช่นถ้าจะกู้คอนโดซัก 2 ล้านต้องมีเงินเดือน 30,000 อัพ
วิธีคิดค่างวดผ่อนง่ายๆคือ "ล้านละ 5-7,000" เช่นคอนโด 2 ล้านก็ผ่อนเดือนละ 10,000-1,4000 ตรงนี้เอาไว้ประเมินค่าใช้จ่ายต่อเดือนนะครับ แต่เชื่อไหมครับ... ส่วนใหญ่คนเราจะประหยัดได้ก็ตอนซื้อคอนโด ซื้อบ้าน หรือว่ามีลูกเนี่ยละครับ ไม่มีภาระส่วนนี้ก็เก็บเงินไม่ได้ไม่เยอะเท่านี้หรอกครับ
**ทั้งหมดเป็นการประมาณคร่าวๆเท่านั้นะครับ
**ทั้งหมดเป็นการประมาณคร่าวๆเท่านั้นะครับ
ส่งท้าย..
ผมเองไม่ได้เก่งมาจากไหนนะครับ ไม่ได้อยากจะอวดใครเพราะไม่ได้เยอะอะไร แถมเป็นคนใช้เงินเก่งและไร้วินัยการเงินอีก แต่จะอยากมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้เจอมา เผื่ออาจจะมีประโยชน์กับเพื่อนบางคน และทั้งหมดนี้คือประสบการณ์และความเห็นของผมที่ได้เจอมากและฟังจากคนรอบๆตัวเท่านั้นนะครับ ยังมีการออมการลงทุนหลายแบบมากมายในโลก เพียงแต่แบบนี้มันเหมาะกับผม และทุกๆการลงทุนมีความเสี่ยงหมด... อย่าเกินตัวละกันครับ...
วันนี้ผมก็ขอจบการบทความแบบบ้านๆ ของผมไว้เพียงเท่านี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะร่ำรวยๆกันถ้วนๆหน้านะคร้าบบบ ^^